ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

สถานะเที่ยวบินของสนามบินสุวรรณภูมิ
Arrival 
Arrival            Departure
เที่ยวบินขาเข้า                        เที่ยวบินขาออก

ถ้าใครเคยไปใช้บริการที่สนามบินดอนเมือง คงยังจำได้ว่าที่นั่นจะมีอาคารผู้โดยสารกันหลายอาคาร ถ้าเราจะบินในประเทศก็จะต้องไปที่อาคารภายในประเทศ ส่วนถ้าจะเดินทางไปต่างประเทศกัน ก็มีอาคารระหว่างประเทศที่ยังแบ่งเป็นอาคาร 1 กับอาคาร 2 อีก

แต่ที่สนาม บินสุวรรณภูมิ เขาออกแบบให้มีอาคารผู้โดยสารเป็นหลังเดียว อยู่รวมกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพียงแต่ว่าจะแบ่งกันข้างในอีกที อย่างถ้าจะเดินทางในประเทศก็จะใช้อาคาร รวมทั้งทางขึ้นเครื่องทางฝั่งซ้ายเป็นหลัก

การเดินทาง เส้นทางเข้า-ออก

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบถนนและรถไฟฟ้าเข้าออกทั้งหมด 6 เส้นทาง คือ

ทิศเหนือ :
เป็นถนนยกระดับขนาด 8 ช่องจราจร จากถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ เข้าสู่อาคารผู้โดยสาร
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ :
เป็นถนนขนาด 6 ช่อง เชื่อมกับทางยกระดับจากถนนร่มเกล้าและถนนกิ่งแก้ว
ทิศใต้ :
เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และทางด่วนบูรพาวิถี
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ :
เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนอ่อนนุช
ทิศตะวันตก :
เป็นถนนขนาด 4 ช่องทางจราจร เชื่อกับถนนกิ่งแก้ว

** รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายพญาไท – มักกะสัน – สุวรรณภูมิ วิ่งเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร มีสถานีรถไฟฟ้าใต้อาคารผู้โดยสาร 

เพราะงั้นเวลามาเช็คอินขึ้นเครื่องสำหรับเดินทางในประเทศ ก็ให้รถมาส่งลงกันที่แถว ๆ ประตู 2 ที่ชั้น 4 ที่เป็นชั้นของผู้โดยสารขาออก

เข้ามาข้างในอาคารแล้ว ก็มาเช็คอินที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินที่จะเดินทางกัน ปกติเขาก็จะบอกเอาไว้ในตั๋วว่า จะต้องไปเช็คอินที่แถวตัวอักษรอะไร จะมีเรียงกันไปตั้งแต่ A/B C/D ไปเรื่อย เพราะงั้นมาถึงแล้วก็มองหาป้ายบอกแถวเช็คอินที่อย่างนี้ไว้เลย

แต่ อย่างที่รู้กันว่าสนามบินสุวรรณภูมิของเราเนี่ยกว้างขวางใหญ่โตมาก ถ้าไม่อยากจะเดิมกันอ่วมตั้งแต่เริ่มต้น ก็ให้รถมาส่งให้ตรงประตูที่ใกล้กับเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินที่เราจะไป ก็น่าจะดี

สังเกตว่าด้านหน้าอาคารตรงที่รถจะมาส่งลง เขาจะมีป้ายบอกเอาไว้ให้ว่าเข้าประตูนี้ไปแล้วจะไปเจอเคาน์เตอร์ของสายการบินอะไรบ้าง

ข้อมูลสำหรับผู้โดยสารขาออก

ส่วน บริการผู้โดยสารขาออกตั้งอยู่ที่ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ประกอบด้วย พื้นที่บริการผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารจำนวน 10 เกาะ (Island) รวมมีเช็คอินเคาน์เตอร์ทั้งหมด 460 เคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีกระเป๋า 100 เคาน์เตอร์นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บริการผู้โดยสารพรีเมี่ยมของการบินไทยจุดตรวจหนังสือเดินทาง เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยานบูธของสายการบิน บริการติดตามสัมภาระ และมีบันไดเลื่อนขึ้นสู่ภัตตาคาร ชั้น 6
ผู้โดยสารขาออก สามารถให้รถไปส่งที่ ชานชาลาหน้าอาคารหรือจอดรถไว้ที่อาคารจอดรถ ซึ่งจะมีทางเดินเชื่อมกับอาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 เพื่อขึ้นไปชั้น 4 ภายในโถงผู้โดยสารขาออก

  • ผู้โดยสารระหว่างประเทศ
    เมื่อเข้าสู่โถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ส่วนระหว่างประเทศแล้ว ผู้โดยสารเช็คอินได้ที่ เคาน์เตอร์เกาะ 4-10 จากนั้นผ่านการตรวจหนังสือเดินทางและศุลกากร ก่อนเข้าสู่ อาคารเทียบเครื่องบิน D ซึ่งมีสะพานเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 แห่ง
    ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน D ชั้น 4 จะมีร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งผู้โดยสารสามารถซื้อสินค้าได้ระหว่างรอขึ้นเครื่องบิน จากนั้น จะต้องลงไปที่แนวทางเดินชั้น 3 ก่อนไปที่ประตูขึ้นเครื่องบิน (Gate) ของอาคารเทียบเครื่องบินต่าง ๆ และเมื่อถึงประตูขึ้นเครื่อง (Gate) ที่ต้องการผู้โดยสารจะต้องเดินลงไปที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องพักรอผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง (Hold Room) สำหรับการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระติดตัวผู้โดยสารขาออกนั้น จะมีจุดตรวจค้นกระจายอยู่ในพื้นที่ชั้น 3 และชั้น 4 บริเวณ Airside center ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารทุกคนจะต้องผ่านจุดตรวจค้นแห่งนี้
  • ผู้โดยสารภายในประเทศ
    ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ต้องไปตรวจบัตรโดยสารที่ เคาน์เตอร์ เกาะ 2-3 จากนั้นจะต้องลงบันไดเลื่อนตรงไปยัง อาคารเทียบเครื่องบินชั้น 2 เพื่อไปยังห้องผู้โดยสารพักรอขึ้นเครื่อง ซึ่งทุกห้องจะมีจุดตรวจค้นตั้งอยู่

***ปกติก็จะต้องมาเช็คอินกัน 2 ชั่วโมงหรือช้าที่สุดต้องไม่น้อยกว่า 45 นาทีก่อนเวลาเครื่องออก

***เช็คอินเสร็จแล้วใช่ว่าจะเอ่อระเหยได้ เวลาเดินทางในตั๋วหมายถึง "เวลาที่เครื่องออกบิน" เพราะงั้นต้องเผื่อเวลาไปรอที่ประตูขึ้น เครื่องก่อนเวลาที่เครื่องออกด้วย อย่างสายการบินนี้เขาเตือนไว้เลยว่า จะปิดประตูขึ้นเครื่อง 15-20 นาทีก่อนเวลาออกเดินทาง จะมีจอแสดงข้อมูลของเที่ยวบินมีติดกระจายไว้ ถึงจะรู้แล้วว่าเครื่องออกกี่โมง ต้องไปขึ้นที่ประตูไหน แต่ก็ควรหมั่นดูไว้หน่อย เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลสำหรับผู้โดยสารขาเข้า

ส่วนบริการผู้โดยสารขา เข้า ตั้งอยู่ที่ อาคารผู้โดยสารชั้น 2 โดยส่วนภายในประเทศและระหว่างประเทศเป็นพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมี Re-check-in counter สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่อง จากเที่ยวบินระหว่างประเทศ มายังเที่ยวบินภายในประเทศ และมีสายพานลำเลียงกระเป๋าทั้งหมด 22 ชุด ซึ่งแบ่งเป็น ผู้โดยสารภายในประเทศ 5 ชุด และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 17 ชุด โดยสายพานลำเลียงกระเป๋าชุดสุดท้าย มีความยาวเป็นพิเศษเพื่อรองรับกระเป๋าจากเครื่องบินแอร์บัส A-380

  • ผู้โดยสารระหว่างประเทศ
    เครื่องบินจะจอดที่ อาคารเทียบเครื่องบินชั้น 2 จากนั้นผู้โดยสารเข้าสู่ ห้องพักผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 เพื่อตรวจหนังสือเดินทาง ละรอรับกระเป๋าที่สายพาน 6-22 เมื่อได้รับกระเป๋าและผ่านขั้นตอนศุลกากรแล้ว จะเข้าสู่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า แล้วออกสู่ชานซาลาเพื่อรอขึ้นรถกรณีกรุ๊ปทัวร์ ต้องลงไปชั้น 1 เพื่อขึ้นรถบัส สำหรับผู้ที่มารับผู้โดยสาร มีจุดนัดพบอยู่ที่ชั้น 3
  •  ผู้โดยสารภายในประเทศ
    เครื่อง บินขาเข้าภายในประเทศ จะจอดที่ อาคารเทียบเครื่องบิน ชั้น 2 จากนั้น ผู้โดยสารจะเดินเข้าสู่ ห้องผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 เพื่อรอรับกระเป๋าบริเวณสายพานลำเลียงที่ 5 และออกสู่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า
  •  ผู้โดยสารเปลี่ยนลำ (Transfer)
    กรณี ผู้โดยสารเปลี่ยนลำ (Transfer) หลังจากผู้โดยสารออกจากอากาศยาน เข้าสู่ตัวอาคารเทียบเครื่องบินชั้น 2 แล้ว จะต้องเดินไปยัง Airside center ที่ เคาน์เตอร์ให้บริการผู้โดยสารเปลี่ยนลำ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน ก่อนผ่านขึ้นไปยังชั้น 3 และ ชั้น 4 เพื่อรอผ่านขั้นตอนขาออกโดยปกติต่อไป
  •  ผู้โดยสารผ่าน (Transit)
    สำหรับ กรณี ผู้โดยสารผ่าน (Transit) จะต้องไปยังพื้นที่ให้บริการในส่วนของขาออก โดยผ่านช่องทางที่บริเวณ Airside center ทั้ง 2 ด้านก่อนเข้าสู่กระบวนการของผู้โดยสารขาออก

บริการต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวก

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมากกว่าที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ พร้อมทั้งยังเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดากรวดเร็วยิ่งขึ้น
*ตรวจคนเข้าเมือง ขาเข้า 130 เคาน์เตอร์ ขาออก 72 เคาน์เตอร์
*ศุลกากร ขาเข้า 26 เคาน์เตอร์ ขาออก 8 เคาน์เตอร์
*สายพานรับกระเป๋า 22 สายพาน
*เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร 360 เคาน์เตอร์ และ เคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระ สามารถ Check ln ได้รวดเร็ว อีก 100 เคาน์เตอร์
*ทางเลื่อนอัตโนมัติ 107 ชุด
*ลิฟต์ 102 ตัว
*บันไดเลื่อน 83 ตัว
* ทางลาดเลื่อนอัตโนมัติ 18 ชุด

รายละเอียดภายใน

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศที่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันได้แก่
1. ระบบทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน
ทางวิ่ง มี 2 เส้น กว้างเส้นละ 60 เมตร ยาว 3,700 เมตร และ 4,000 เมตร ห่างกัน 2,200 เมตร มีทางขับขนานกับทางวิ่งทั้ง 2 เส้น ให้บริการขึ้น-ลง ของอากาศยานได้พร้อมกัน และเมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว จะมีทางวิ่งทั้งหมด 4 เส้น เป็นทางวิ่งข้างละ 2 เส้นขนานกัน หลุมจอดอากาศยาน มีจำนวน 120 หลุมจอด (จอดประชิดอาคาร 51 หลุมจอด และจอดระยะไกลอีก 69 หลุมจอด) ในจำนวนนี้มีการเตรียมหลุมจอดอากาศยานขนาดใหญ่ไว้ด้วย จำนวน 5 หลุมจอด
2. อาคารผู้โดยสาร
เป็นอาคารเดี่ยว มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 563,000 ตารางเมตร อยู่ทางทิศเหนือของท่าอากาศยานรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี ภายในอาคารครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น จุดตรวจบัตรโดยสาร 360 จุด จุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้า 124 จุด ขาออก 72 จุด โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 100% Hold Baggage In-line Screening System นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอยู่ใต้อาคารอีกด้วย
3. อาคารจอดรถ
มี 2 อาคาร แต่ละอาคารสูง 5 ชั้น เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 5,000 คัน นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถบริเวณอื่นๆ รวมทั้งหมดกว่า 15,677 คัน
4. ระบบสาธารณูปโภค
ระบบป้องกันน้ำท่วม มีการสร้างเขื่อนดินสูง 3.5 เมตร กว้าง 70 เมตร โดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน และมีอ่างเก็บน้ำภายใน 6 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร
ระบบน้ำประปา เชื่อมต่อกับระบบประปาของการประปานครหลวง และมีถังน้ำประปาสำรองขนาด 40,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถสำรองน้ำประปาไว้ใช้ได้ 2 วัน สถานีแปลงไฟฟ้าย่อย เป็นสถานีแปลงไฟฟ้าเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าจาก 115 กิโลโวลท์ ให้เหลือ 24 กิโลโวลท์ มีจำนวน 2 สถานี เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แก่ทุกระบบภายในท่าอากาศยาน
ระบบบำบัดน้ำเสีย สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 16,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน / ระบบจัดเก็บกากของเสีย สามารถกำจัดกากของเสียได้ประมาณ 100 ตันต่อวัน
5. ระบบบริการคลังสินค้า
มีพื้นที่ให้บริการประมาณ 568,000 ตารางเมตร และมีการให้บริการแบบเขตปลอดพิธีการศุลกากร (Free Zone) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งรองรับสินค้าได้ 3 ล้านตันต่อปี
6. ระบบโภชนาการ
สามารถผลิตอาหารให้แก่สายการบินต่างๆ ได้ 65,000 ชุดต่อวัน
7. โรงซ่อมบำรุงอากาศยาน
มีจำนวน 2 โรง ซึ่งสามารถจอดอากาศยานขนาดใหญ่ A380 ได้
8. ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ
มีหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก 132 เมตร พร้อมระบบการนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย
9. โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารในระยะแรก มีจำนวน 600 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

**นอกจากนี้ภายในท่าอากาศยาน จะมีการบริการต่างๆ มากมาย เช่น ศูนย์บริการรถเช่า ร้านค้า ภัตตาคาร สถานีเติมน้ำมัน ฯลฯ

ที่สุดของสุวรรณภูมิ

  • อาคารผู้โดยสาร (Main Terminal) : ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีพื้นที่ 563,000 ตารางเมตร ใหญ่กว่าสนามบินของฮ่องกงประมาณ 10,000 ตารางเมตร
  • หอวิทยุการบินสูงที่สุดในโลก : ด้วยความสูง 132 ม. สูงกว่าหอวิทยุการบินของมาเลเซียถึง 10 ม. พร้อมด้วยเทคโนโลยีการให้บริการจราจรทางอากาศที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง
  • โรงแรมหน้าสนามบิน มีห้องพัก 600 ห้อง มีล็อบบี้ใหญ่ที่สุดในโลก : เนื่องจากด้านล่าง เป็นสถานีรถไฟฟ้า Airport Link

เบอร์โทรที่สำคัญสำหรับติดต่อ

Suvarnabhumi Airport Call center   0-2132-1888

Help Desk                                   0-2132-3888

Flights Information                        0-2312-0000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น