เทคนิคและวิธีเข้าประเทศเกาหลี

ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่คนไทยได้รับสิทธิพิเศษ สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องทำ VISA และพำนักอยู่ได้นาน 90 วัน นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ค่าครองชีพสูง ส่งผลให้ประชากรได้รับเงินเดือนดี จึงทำให้เกิดปัญหาการค้าแรงงานเถื่อนของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่นิยมกันมากที่สุดคือการแฝงตัวไปกับคณะทัวร์ ดังนั้นการเข้าหรือออกนอกเมืองต่างๆของประเทศเกาหลีใต้ จึงขึ้น อยู่กับอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองไทยและเกาหลีใต้ ผู้จัดทัวร์ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายหรือกระทำการอันใด นอกเหนือจากดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ทางราชการได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวทุกท่านจะต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองด้วยตัวของท่านเอง
วิธีผ่านด่านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีเกาหลีง่าย
1. แต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยที่สุด
ไม่จำเป็นว่าจะต้องใส่เสื้อผ้าราคาแพงนะครับ เพียงเลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับกาลเทศะ อาจจะใส่เหมือนชุดทำงานออฟฟิศแบบวัยรุ่น ไม่ต้องเต็มยศนะครับ เน้นชุดที่เรียบง่ายแต่ดูดี มีเสื้อคลุมติดตัวสักตัว มีเครื่องประดับเล็กน้อยเพื่อทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเราดูมีคุณค่า ก็เพียงพอแล้วครับ
2. เตรียมเอกสารให้พร้อมยื่น
สิ่งที่ทำเป็นจะต้องยื่นกับ ตม. ก็มีเอกสารต่างๆ อันจะทำให้พนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักและน่าให้เข้า ประเทศมากที่สุดสำหรับชาวต่างชาติเช่นเรา มีดังนี้ครับ
พาสปอร์ต (Passport) หนังสือเดินทางที่ถูกประทับตราเข้าออกมาแล้วหลายประเทศ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเราได้เป็นอย่างดี หากพาสปอร์ตใครโล่งๆ ว่างเปล่าก็ไม่ต้องตกใจครับ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเราได้
บัตร เข้า/ออก นอกเมือง เป็นบัตรสีฟ้าที่จะต้องกรอกตอนอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ จะมีอยู่ 2 ใบก็คือ บัตรเข้าเมือง กับบัตรออกนอกเมือง เราจะใช้สำหรับออกจากประเทศไทยและเข้าประเทศเกาหลี โดยข้อมูลที่จะต้องกรอกในบัตรก็ง่ายๆ ครับ จำพวกชื่อ นามสกุล วันเกิด ที่อยู่ ลายเซ็นต์ ข้อมูลเที่ยวบิน เป็นต้น แนะนำว่าให้กรอกสองใบไปรวดเดียวเลยครับ จะได้ไม่ต้องยุ่งยากทีหลัง โดยบัตรนี้ทาง ตม. ไทยเขาจะแม็กเย็บติดกับ Passport ให้กับเรา
เพื่อที่เวลายื่น Passport กับ ตม. เกาหลี เอกสารจะได้พร้อมนั่นเอง
E-Ticket หรือเรียกเต็มๆ ว่า Electronic Ticket ตั๋วเครื่องบินอิเล็คทรอนิค จะเป็นแค่เอกสารธรรมดามีชื่อของเราและเที่ยวบิน การมี E-Ticket จะช่วยเพิ่มความสะดวกและป้องกันการทำตั๋วเครื่องบินหายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องมีตั๋วเครื่องบินหรือเอกสารใดๆ เลยครับ แค่นำ Passport ไปยื่นที่ช่อง Check-in ที่สนามบินขากลับก็สามารถรับตั๋วเครื่องบินที่นั่นได้ทันที สิ่งนี้ล่ะที่จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าเรามาท่องเที่ยว มีเอกสารวันที่บินมาเที่ยว และวันที่จะบินกลับจริง หากเดินทางมากับทัวร์ปกติเขาก็จะมี E-Ticket ให้ทุกคนครับ
เอกสารการมาเที่ยวเป็นหมูคณะ ถ้าใครมาเที่ยวกับที่ทำงานหรือบริษัททัวร์ก็อาจจะได้รับเอกสารแนวๆ นี้ติดตัวด้วย หากใครมาเที่ยวแบบส่วนตัว การพกแผนที่, นิตยสาร, โบว์ชัวร์ กิจกรรมท่องเที่ยวยื่นไปด้วยก็จะดีมากเลยครับ อย่างน้อยก็ให้พนักงานเขารู้ว่าเรามีข้อมูลท่องเที่ยวหรือเป็นนักท่องเที่ยว ตัวจริง
3. พูดภาษาอังกฤษให้ได้บ้างเล็กน้อย
การเดินเข้า ตม. ผิดช่อง, การแต่งกายไม่สุภาพ, การเตรียมเอกสารไม่พร้อม หรือแม้กระทั่งการทำตัวไม่นิ่ง ลนๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณถูกสอบถามครับ ปกติคนที่ดูดีเค้าจะไม่ถามครับ รับเอกสารประทับตรา แล้วก็ผ่านจบ ส่วนคนที่ซวยก็เตรียมคำตอบไว้ดีๆ ครับ ไม่ต้องลน ขอเพียงสื่อสารได้บ้าง สิ่งที่เค้าจะถามก็ไม่ยากครับ ประมาณว่า คุณมาทำไม, จะกลับเมื่อไหร่, พกเงินมาเท่าไร, มีญาติที่นี่ไหม อะไรทำนองนี้ครับ เราก็ตอบเค้าไปตามตรง แต่สิ่งต้องห้ามสำหรับการสื่อสารกับ ตม. คือ ห้ามตอบว่า "I don't khow" ครับ มิเช่นนั้นแล้วชีวิตการมาเที่ยวอาจจะจบลงได้ทันที ถ้ารู้สึกอึดอัด พูดไม่ถูกอย่างไร ผมแนะนำว่าพูดว่า "For Travel" หรือ "Tourist" ไว้ก่อนดีที่สุด
ส่วนใครที่พอพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ผมเองก็งูๆ ปลาๆ แต่สื่อสารได้รู้เรื่องทุกคำเลยไม่มีปัญหา อาจจะมีปัญหาบ้างก็ตรงสำนวนหรือหางเสียงของคนเกาหลี เขาจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยชัดครับ เราต้องฟังดีๆ
คำถามที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี มักจะสอบถามจากผู้เดินทางเป็นภาษาอังกฤษ โดยส่วนมากมีดังนี้
1. What ’s your name ? (คุณชื่ออะไร)
2. What are you doing ? / What is your work ? (คุณทำงานอะไร)
3. Where do you stay in Thailand ? (คุณพักอยู่ที่ไหนในเมืองไทย)
4. What are you doing in Korea ? (คุณมาทำอะไรที่เกาหลี)
5. How many person/people in your group ? (คณะคุณมากี่คน)
6. How many days ? / How long will you stay here ? (คุณจะมาอยู่กี่วัน)
7. Where do you go ? (คุณจะไปที่ไหนบ้าง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น