เตรียมตัวเดินทางไปเกาหลีใต้

1. วีซ่า
• นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ต้องมีหนังสือเดินทาง ( Passport ) ที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน ( นับจากวันเดินทาง ) และพักอยู่ได้นานถึง 90 วัน ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ
• เนื่องจากไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ดังนั้นการอนุญาตให้เข้าเมืองจึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีเป็นผู้พิจารณา
2. เวลา
• เวลาท้องถิ่นของประเทศเกาหลีใต้ เร็วกว่า ประเทศไทย 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวควรปรับนาฬิกาของท่าน เพื่อไม่ให้ผิดพลาดการนัดหมาย
3. เงินตรา และ บัตรเครดิต
• ประเทศเกาหลีใต้ใช้เงินสกุล “วอน” ( WON ) ซึ่ง 1,000 วอน จะมีมูลค่าเท่ากับ 32 บาทไทย โดยประมาณ
• บัตรเครดิต เช่น VISA, AMERICAN EXPRESS, DINERS CLUB, MASTER CARD และ JCB เป็นที่ยอมรับกันตามโรงแรมใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้า และภัตตาคารขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งร้านค้าที่รับจะมีสติ๊กเกอร์ติดบอกไว้ว่ารับบัตรเครดิตชนิดใดได้บ้าง ควรเตรียมเงินสดไปให้พอ เพราะสินค้าที่จะซื้อส่วนใหญ่จะต้องใช้เงินสด
• ตลาดช้อปปิ้งของเกาหลี เช่น ทงแดมุน, เมียงดง, อิเทวอน ใช้ได้เฉพาะเงินวอนเท่านั้น และสามารถต่อรองราคาได้ 10-30 % ส่วนร้านค้าปลอดภาษี ( Duty Free Shop ), ห้างสรรพสินค้า และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่สามารถต่อรองราคาได้
4. การแลกเงิน
• ควรแลกเงินสด “วอน” ( WON ) ไปจากประเทศไทย หรือแลกเป็นเงิน “ดอลลาร์สหรัฐ” ( USD ) และควรเตรียมล่วงหน้าไว้หลายๆวันก่อนการเดินทาง เพราะบางครั้งอาจหาแลกได้ยาก ซึ่งท่านสามารถแลกได้ที่
COUNTER แลกเงินที่สนามบินเมืองไทย, ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง และ สถาบันแลกเงินที่ได้รับการรับรอง
• ควรแลกเงินสดให้เพียงพอประมาณ 600,000 วอน ( 500 USD ) และควรพกบัตรเครดิตติดตัวไปด้วย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอดูเงินหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่
5. กระเป๋าเดินทาง
• ควรเป็นแบบหีบที่มีล้อลากทำด้วยวัสดุแข็งแรงทนทาน เนื่องจากบรรจุของได้เยอะ และสะดวกในการขนย้าย
• ถ้าเป็นกระเป๋าแบบใช้รหัส ควรตั้งรหัสไว้ในสมุดบันทึก หรือเอกสารสำคัญที่จะนำติดตัวไปด้วย
• ถ้าเป็นกระเป๋าแบบรูดซิป ควรซื้อกุญแจดอกเล็กๆ ล็อคกระเป๋าเพิ่มเติมด้วย เพื่อกันขโมยหรือกันคนไม่ประสงค์ดีเอาของมาใส่โดยที่เราไม่รู้ไม่เห็น และอย่าลืมเอาลูกกุญแจไปด้วย
• ปกติสายการบินจะกำหนดน้ำหนักของกระเป๋าที่จะฝากไปกับเครื่องบิน (ชั้นทัศนาจร) ท่านละไม่เกิน 20 กก.
• กระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่อง หรือนำติดตัวไประหว่างนั่งเครื่องบินนั้น ไม่ควรจะเป็นใบที่ใหญ่จนเกินไป และมีจำนวนไม่เกิน 1 ใบ เช่น กระเป๋าเป้ หรือ กระเป๋าสะพาย ซึ่งต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กก.
• เนื่องจากทางสายการบินมีกฎออกมาว่า ห้ามผู้โดยสารนำของเหลวทุกชนิดใส่กระเป๋าถือหรือสะพายขึ้นห้องโดยสารเด็ดขาด เว้นแต่จะได้ดำเนินการตามนี้
1.) ของเหลวทุกชนิด ได้แก่ น้ำ, เครื่องดื่ม, ครีม, โลชั่น, ออยส์, น้ำหอม, สเปรย์, เจลใส่ผม, เจลอาบน้ำ, เครื่องสำอางที่เป็นน้ำ, โฟมชนิดต่างๆ, ยาสีฟัน, น้ำยากำจัดกลิ่นตัว และของอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันต้องบรรจุในภาชนะซึ่งมีปริมาณความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ( สำหรับภาชนะซึ่งมีปริมาณความจุเกิน 100 มิลลิลิตร จะนำขึ้นเครื่องบินไม่ได้ แม้ว่าจะบรรจุของเหลว, เจล, สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันไว้เพียงเล็กน้อย
2.) ภาชนะที่ใส่ของเหลว, เจล, สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ต้องใส่รวมไว้ในถุงพลาสติกใส ที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 1 ลิตร (ประมาณ 20X20 ซม.) และสามารถปิดผนึกได้ (Transparent Re-Sealable Plastic Bag) โดยต้องปิดผนึกปากถุงให้เรียบร้อย
3.) ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นเครื่องบินได้คนละ 1 ถุง
• ของเหลวที่บรรจุอยู่ในภาชนะซึ่งมีปริมาณความจุเกิน 100 มิลลิลิตร ให้ใส่กระเป๋าใบใหญ่โหลดเข้าใต้เครื่องบินเท่านั้น ยกเว้นได้เฉพาะยาน้ำ กับอาหารเด็กทารก
• ห้ามนำน้ำ หรือ ของเหลวทุกชนิด เข้าสู่บริเวณ GATE หากฝ่าฝืนจะถูกทิ้งทั้งหมด
• อุปกรณ์อัดแก๊ส เช่น ไฟแช็ค, กระป๋องออกซิเจน, กระป๋องสเปรย์ หรือ ปรอท ห้ามนำไปด้วยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าใบใหญ่ที่โหลดลงใต้เครื่อง หรือนำติดตัวขึ้นเครื่องก็ตาม
• ห้ามนำผลไม้, เมล็ดพืช หรือสัตว์ต่างๆ เข้าประเทศเกาหลีอย่างเด็ดขาด
• ของใช้ที่เป็นโลหะมีคม เช่น ช้อน-ส้อม, กรรไกร, มีดโกนหนวด, ตะไบเล็บ หรือคัตเตอร์ อย่าใส่ไว้ในกระเป๋าถือติดตัวโดยเด็ดขาด ให้ใส่ไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ที่โหลดลงใต้เครื่องเท่านั้น
• ศุลกากรเกาหลี อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเหล้าเข้าได้เพียง 1 ขวด, น้ำหอม 2 ออนซ์ และบุหรี่ 1 แถว ส่วนขาออกอิสระไม่จำกัด
• ของรับประทาน, อาหารแห้ง, บะหมี่ หรือ น้ำพริก สามารถนำไปได้ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับระยะเวลาการพำนักในประเทศเกาหลี
6. การจัดกระเป๋า
• โรงแรมส่วนใหญ่ในเกาหลีจะไม่มี แปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, แชมพู, กี่โกนหนวด หรือ หมวกคลุมผม ไว้บริการในห้องพัก นักท่องเที่ยวต้องจัดเตรียมไปเอง รวมทั้งผ้าเช็ดตัวด้วย เนื่องจากโรงแรมในเกาหลีจะมีแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ( ไม่สามารถนุ่งได้ ) ส่วนน้ำดื่มในมินิบาร์ที่ติดห่วงบอกราคาไว้ต้องเสียเงิน
• ของทุกชิ้นที่จะนำไปด้วยต้องมีประโยชน์และจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากโรงแรมที่เกาหลีจะไม่มีพนักงานยกกระเป๋าคอยอำนวยความสะดวกให้ นักท่องเที่ยวต้องดูแลสัมภาระของท่านด้วยตัวท่านเอง เช่น นำกระเป๋าขึ้นห้องพักเอง ( ถ้าใช้บริการของพนักงานต้องให้ทิปตามธรรมเนียมปฏิบัติ )
• เคล็ดลับในการจัดกระเป๋าแบบหีบ
1. ควรวางรองเท้าไว้ที่ขอบกระเป๋า ตามด้วยกางเกงขายาว โดยปล่อยขากางเกงไว้นอกกระเป๋า
2. วางเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด ตามลงไป ( การม้วนเสื้อผ้า จะทำให้ได้พื้นที่ในการจัดเก็บเพิ่มขึ้น )
3. นำกางเกงที่ปล่อยไว้ข้างนอกมาคลุมเสื้อผ้าทั้งหมด
4. ของกระจุกกระจิกอื่นๆให้แทรกไว้ตามช่องว่างของกระเป๋า
• เคล็ดลับในการจัดกระเป๋าแบบถือ หรือ กระเป๋าสะพาย
1. จัดของที่มีน้ำหนักมากที่สุด ไว้ด้านล่างสุดของกระเป๋า ส่วนของเบาๆควรอยู่ด้านบนสุด
2. การนำเสื้อผ้าใส่ถุงพลาสติก จะทำให้ยับน้อยลง และสามารถแยกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วได้ด้วย
7. เครื่องแต่งกายที่แนะนำ
• ฤดูใบไม้ผลิ ( 10-15 องศาเซลเซียส ) : มี.ค. – พ.ค. แดดร้อนในตอนกลางวัน แต่หนาวในช่วงเช้าและเย็น
1. เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
2. เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวกกันแดด
• ฤดูร้อน ( 19-27 องศาเซลเซียส ) : มิ.ย. – ส.ค. อากาศร้อนอบอ้าว แดดแรง และอาจมีฝนตกเล็กน้อย
1. ชุดลำลองที่สวมใส่สบาย เช่น เสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงระดับเข่า
2. เสื้อกันฝน หมวก หรือ ร่ม ( ในกรณีที่ฝนตก )
• ฤดูใบไม้ร่วง ( 12-20 องศาเซลเซียส ) : ก.ย. – พ.ย. อากาศเย็น และหนาวตลอดทั้งวัน .
1. เสื้อกันหนาวหนาๆ หรือ สเว็ตเตอร์ ผ้าพันคอ
2. เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
• ฤดูหนาว ( -5-7 องศาเซลเซียส ) : ธ.ค. – ก.พ. อากาศแห้งและหนาวมากตลอดทั้งวัน ลมแรงเล็กน้อย
1. ผ้าพันคอ, ถุงมือ, ถุงเท้า, หมวกไหมพรม ( สำหรับปิดหู )
2. เสื้อกันหนาวแขนยาว กางเกงกันหนาวขายาว ( ลองจอน )
3. โอเวอร์โค้ดยาว 1 ตัว (หรือเสื้อแจ๊คเก็ตขนเป็ดที่ให้ความอุ่น)
4. ลิปมัน และครีมทาผิว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฤดูกาลนี้
8. รองเท้า
• รองเท้าที่ใช้ในการเดินทางวันแรก ควรสวมรองเท้าหนังหุ้มส้นที่ดูสุภาพ ( ดูดี ) หรือรองเท้าผ้าใบที่สวยงาม
• ระหว่างทัวร์ที่เกาหลีควรสวมรองเท้าผ้าใบที่เดินถนัดหุ้มข้อ หรือรองเท้าหนังที่สวมใส่สบาย เพราะต้องเดินเยอะมาก และควรเตรียมครีมนวดเท้าไปด้วย
• ควรเตรียมรองเท้าแตะ หรือรองเท้าที่ใส่สบายไปด้วยเพื่อเป็นการพักเท้า
• ไม่ควรสวมรองเท้าแตะ ในการเดินทางวันแรก เพื่อความสุภาพเรียบร้อยระหว่างผ่านด่านตม.
9. สิ่งที่ควรนำติดตัวเสมอ
• ยาต่างๆได้แก่ ยารักษาโรคประจำตัว, ยาแก้แพ้ ( เมารถ ), ยาแก้ท้องเสีย, ยาลดไข้ หรือตามแพทย์สั่ง
• กระเป๋าสตางค์ และ บัตรเครดิต
• แว่นกันแดด, ครีมกันแดด หรือ ร่มกันแดด
• หนังสือเดินทาง ( Passport ) และ เอกสารสำคัญ
• อุปกรณ์ถ่ายภาพ
10. ห้องพัก
• ส่วนใหญ่โรงแรมในกรุงโซลจะมีระบบ T.V. Paid ( ดูแล้วต้องจ่ายเงิน ) ควรสอบถามจาก พนง.โรงแรม
• สบู่เหลว, ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, แชมพู, ที่โกนหนวด ถ้าวางนอกห้องน้ำ หรือบนตู้เย็น หากผู้พักนำไปให้จะต้องชำระค่าบริการเพิ่มเติม
• หากต้องการน้ำร้อน สามารถต้มได้จากกาน้ำร้อนที่มีบริการไว้ในห้องพัก
• ระบบแอร์ที่เกาหลี จะเป็นแบบ CENTRAL ควบคุมจากศูนย์กลางเพียงแห่งเดียว ผู้พักไม่สามารถปรับเองได้
• ช่วงฤดูหนาว, ฤดูใบไม้ผลิ, และ ฤดูใบไม้ร่วง ไม่มีบริการแอร์ มีแต่บริการฮีตเตอร์ ถ้าร้อนเกินไปสามารถปิดฮีตเตอร์ แล้วเปิดหน้าต่าง หรือช่องลมออกไปเพื่อระบายอากาศได้
11. ปลั๊กไฟ
• ปลั๊กไฟที่เกาหลีส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 ตา ขากลม ( มีสายดิน ) ควรเตรียมปลั๊กแปลง ( Adapter ) ไปด้วย
• หากต้องการนำอุปกรณ์ไฟฟ้าจากเมืองไทยไปใช้ ควรเตรียมปลั๊กพ่วงไปด้วย หากต้องการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชิ้น
12. การใช้โทรศัพท์มือถือ
• ประเทศเกาหลีไม่ได้ใช้ระบบ SIM CARD เหมือนเมืองไทย ดังนั้นหากท่านต้องการใช้โทรศัพท์มือถือ สามารถซื้อเครื่องที่เกาหลีได้เลย แต่จะไม่สามารถนำกลับมาใช้ที่เมืองไทยได้ เพราะเบอร์และระบบการใช้งานนั้นแตกต่างกัน
• หากต้องการนำโทรศัพท์มือถือของท่านไปใช้ที่เกาหลี จะต้องขอเปิดระบบ ROMING ที่ศูนย์การให้บริการของเครือข่ายนั้นๆ ( DTAC, GSM, TRUE ) ก่อนออกเดินทาง และสามารถไปขอเช่าเครื่องได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อนออกเดินทาง โดยมีค่าใช้จ่ายในการขอเช่าเครื่องจากเจ้าของระบบตามเงื่อนไข
ติดต่อ : GSM โทร. 02-271-9000 , DTAC โทร. 02-202-7000 , TRUE โทร. 1331
• หากต้องการโทรกลับมาเมืองไทย เพื่อความสะดวกท่านสามารถซื้อบัตรโทรศัพท์ที่มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือโรงแรมได้ โดยราคาจะอยู่ที่ 5,000 - 10,000 วอน
วิธีใช้ : กด 001 – 66 – ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ตัดหมายเลข 0 ข้างหน้าออก
13. อาหาร
• หากท่านมีปัญหาเรื่องอาหารกรุณาแจ้งบริษัทล่วงหน้า เช่น ไม่ทานเนื้อสัตว์ หรือ แพ้อาหารทะเล เป็นต้น
• อาหารและเครื่องดื่มที่ท่านสั่งพิเศษระหว่างรับประทาน กรุณาชำระเองเมื่อท่านสั่งเพิ่ม
• อาหารเกาหลี โดยทั่วไปมักจะเป็นอาหารทานเพื่อโภชนาการและสุขภาพ จะไม่ออกรสจัด และมักจะเป็นการทานแบบแบ่งปัน คือ 1 ชุดต่อ 4 - 5 ท่าน และมีเครื่องเคียงแบบต่าง ๆ พร้อมข้าวสวย และน้ำซุป
14. น้ำดื่ม
• น้ำดื่มที่ขายโดยทั่วไปในเกาหลีจะเป็นน้ำแร่ ราคาประมาณ 600 - 2,000 วอน ( ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และขนาด )
• น้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้โดยทั่วไป ราคาประมาณ 2,500 - 3,000 วอน ( ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ขนาด และส่วนผสม )
• เบียร์ ราคาประมาณ 4,000 - 5,500 วอน ( ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และขนาด )
15. รถแท็กซี่
• แบบธรรมดา คันสีขาว ค่าโดยสารเริ่มที่ 1,900 วอน ( 2 กม. แรก ) คนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และมีการกรียกเก็บเพิ่มขึ้นในช่วงเที่ยงคืนถึงตีสี่ 20%
• แบบหรูหรา คันสีดำ มีป้ายสีเหลืองข้างบน และมีคำว่า “DELUXE TAXI” เขียนอยู่ด้านข้าง รถแบบนี้มีที่นั่งกว้างกว่าแบบธรรมดา และมาตรฐานสูง ค่าโดยสารเริ่มที่ 4,500 วอน ( 3 กม. แรก ) คนขับพูดภาษาอังกฤษได้ และไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มในตอนกลางคืนดึกๆ
• ควรพกนามบัตร และ โบรชัวร์โรงแรมติดตัวไว้ด้วย
16. ห้องน้ำ และที่จอดรถ
• ห้องน้ำโดยทั่วไปให้บริการฟรี ทั้งในที่สาธารณะ, ใกล้ลานจอดรถ, ร้านค้า และโรงแรม
17. ภาษา
• ประเทศเกาหลี ใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษากลาง ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้ได้น้อยมาก ใบส่วนที่มีการซื้อขาย สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วชาวเกาหลีจะใช้ภาษาเกาหลีและไม่นิยมสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ
18. การให้ทิป
• ประเทศเกาหลีให้ความสำคัญกับการให้ทิปมาก โดยปกติร้านอาหารและโรงแรมจะไม่มีบริการอำนวยความสะดวก ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องดูแลจัดการด้วยตัวเองทุกอย่าง เช่น นำกระเป๋าขึ้นห้องพักเอง ฯลฯ ดังนั้นหากให้พนักงานของโรงแรมยกกระเป๋าให้ จะต้องทิปให้เค้าตามธรรมเนียม
• พนักงานขับรถ, ไกด์ท้องถิ่น และ หัวหน้าทัวร์ ที่อำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทาง ถ้าหากพวกเขาน่ารัก และบริการได้เป็นที่น่าพอใจ ก็ควรจะทิปให้เขาเป็นกำลังน้ำใจ ปกติธรรมเนียมในการให้ทิปจะอยู่ที่ 15,000 วอน/คน/ทริป ( เพื่อความสะดวก ควรทิปเป็นธนบัตร )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น